วันอังคารที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

การประเมินอาจารย์ผู้สอนวิชานี้

การประเมินอาจารย์ผู้สอนวิชานี้

ให้นักศึกษาเขียนประเมินอาจารย์ผู้สอนในประเด็นดังนี้

1.ความรู้ที่ได้จากการเรียนวิชานี้
  ตอบ ได้แนวคิดที่ดีๆและเป็นการแนะแนวทางแห่งความสำเร็จให้เราได้ไปพัฒนาตัวเอง

2.การนำเทคโนโลยีบล็อกมาใช้ในการจัดการเรียนการสอน
นักศึกษาเห็นว่ามีข้อดีและข้อเสียอย่างไร
  ตอบ เป็นการเรียนที่สมัย ช่วยให้เราประหยัดเวลาและสามารถและสะดวกในการทำงาน
และการเรียน

3.บอกความรู้สึกต่อการจัดการเรียนการสอนโดยใช้เว็บบล็อก
  ตอบ เป็นการเรียนการสอนที่สะดวกต่อการทำงานเป็นอย่างมากและเป็นการเรียนทีทันสมัยต่อโลกปัจจุบัน

4.ถ้าประเมินอาจารย์ผู้สอนวิชานี้ เกรด A,B,C จะให้ระดับใด เหตุผล
  ตอบ เกรด A เพราะเป็นวิชาที่ให้ความรู้ได้รอบด้าน และเป็นสื่อการเรียนการสอนที่ดี สอนให้เรามีแง่คิดต่างๆที่สามารถกลับไปพัฒนาตนเองได้

คุณครูที่ประสบความสำเร็จ

คุณครูที่ประสบความสำเร็จ



ประวัติผู้สัมภาษณ์

ชื่อ อาจารย์ รวมพิศ ภิญโญ
เกิดเมื่อ วันที่ 6 ธันวาคม ..2505
ภูมิลำเนาเดิม อำเภอเมือง  จังหวัดนครศรีธรรมราช
ที่อยู่ปัจจุบัน  บ้านเลขที่ 264/21 ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช 80000

การศึกษา
พ.ศ.2512      ประถมศึกษาปีที่ โรงเรียนเทศบาลวัดเสมาเมือง อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช
พ.ศ.2518      มัธยมศึกษาปีที่  โรงเรียนกัลยาณีศรีธรรมราช อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช
พ.ศ.2528      เรียนจบมหาวิทยาลัยรามคำแหง

ประวัติการทำงาน
พ.ศ.2529       ครูอัตราจ้างโรงเรียนอนุบาลจังหวัดนครศรีธรรมราช  อำเภอ เมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช        
พ.ศ.2535        รับราชการครู โรงเรียนกัลยาณีศรีธรรมราช อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช
พ.ศ.2540        ครูชำนาญการโรงเรียนกัลยาณีศรีธรรมราช อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช
ปัจจุบัน ครูชำนาญการ โรงเรียนกัลยาณีศรีธรรมราช อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราชสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต12

คำถามการให้สัมภาษณ์ของคุณครู

1.คิดอย่างไรถึงเลือกประกอบอาชีพครู
ตอบ     เป็นอาชีพที่มีความมั่นคงและรักในการถ่ายทอดความรู้ให้แก่ลูกศิษย์ 

2.คิดว่าอาชีพครูมีความสำคัญอย่างไรบ้าง
ตอบ     เป็นอาชีพที่ทำให้สังคมเกิดการพัฒนา เพราะครูคือผู้สร้างเยาวชนให้มีความรู้ความสามารถในการพัฒนาประเทศได้

3.คิดว่าบทบาทของครูที่นอกเหนือจากการสอนหนังสือคืออะไร
ตอบ      เป็นที่ปรึกษาให้กับนักเรียนได้ทุกเรื่องเมื่อนักเรียนมีปัญหา

4.คิดยังไงกับข้อความที่ว่า ครูเปรียบเสมือนเรือจ้าง
ตอบ      เห็นด้วย เพราะเราเปรียบเสมือนคนส่งลูกศิษย์ไปให้ถึงฝั่งให้ได้ นี่คือเป้าหมายสูงสุดของการเป็นครู เพราะการทำให้ลูกศิษย์ประสบณ์ผลสำเร็จคือเป้าหมายในการเป็นครู ที่จะพาลุกศิษย์ไปให้ถึงฝั่ง

5.มีเหตุการณ์ใดบ้างที่ทำให้รู้สึกภูมิใจที่ได้เป็นครู
ตอบ      การเป็นครูทำให้ลูกศิษย์ที่ไปถึงจุดหมายได้และประสบณ์ความสำเร็จในชีวิต

6.คิดว่าอะไรเป็นแรงผลักดันให้อยากมาทำงานทุกวัน
ตอบ    เป็นหน้าที่ เพราะเราได้มายืน ณ จุดนี้แล้ว  หน้าที่ของเราคือการให้ความรู้แก่นักเรียน ต้องทำให้นักเรียนมีความรู้ความสามารถ

7.ในฐานะที่เป็นครูแนะแนว คิดว่ามีความเหมือนหรือแตกต่างจากครูอื่นๆอย่างไร
ตอบ    แตกต่าง ก็ตรงที่ได้เราสามารถให้คำปรึกษาและประสบการณ์ทุกอย่างให้แก่นักเรียน สอนให้นักเรียนมีความคิดที่ดี และรู้เท่าทันคน 

8.คิดว่าการศึกษาไทยในปัจจุบันมีอะไรควรปรับปรุงบ้าง
ตอบ หลักสูตรและนโยบายของ สพฐ.

9.จากข่าวคราวด้านลบระหว่างครูกับนักเรียน (เช่น ครูอาจารย์ทำร้ายร่างกายนักเรียน , ครูข่มขืนนักเรียน หรือ นักเรียนแสดงกริยาก้าวร้าวต่อครู) คิดเห็นอย่างไรบ้าง
ตอบ      ต้อพิจารณาจากการกระทำของทั้งสองฝ่ายก่อน เราไม่สามารถตัดสินอะไรจากคำพูด หรือคำบอกกล่าวอะไรได้ แต่ถ้าหากมันเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นแล้วในฐานะที่เป็นครูก็ต้องเรียกนักเรียนมาไต่ถามข้อเท็จจริงว่ามันเป็นอย่างไร มาอย่างไรถึงได้ทำอย่างนี้ จากนั้นจึงค่อยๆสอนเขาแทรกข้อคิด แทรกคำสอนของเราไปในคำพูด เพื่อให้เขาได้ปรับตัวให้ดีขึ้นไม่ก้าวร้าวแบบนี้อีก

10.อยากฝากอะไรถึงนักศึกษาวิชาชีพครูบ้าง
ตอบ      ครูคือผู้สร้างชาติ ผู้ให้ความรู้แก่นักเรียน ซึ่งครูนั้นไม่ใช่แค่ให้ความรู้นักเรียนอย่างเดียวแต่ต้องสอนให้นักเรียนเป็นคนดีมีจริยธรรมด้วย ซึ่งต้องประกอบไปด้วยความรู้และความดีคู่กัน 

วันพฤหัสบดีที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2558


ทดสอบกลางภาคเรียน

1.การศึกษาไทยยุคก่อนมีระบบโรงเรียนมีสาระสำคัญอะไรบ้าง
ตอบ   การศึกษาไทยยุคสมัยโบราณ จัดการศึกษาที่ไม่มีระบบและแบบแผน คือ ไม่มีระบบ
โรงเรียน และชั้นเรียน วัดเป็นแหล่งให้ความรู้ มีพระภิกษุเป็นผู้สอนเพียงเพื่อประกอบอาชีพ
วิชาความรู้ส่วนใหญ่ที่ถ่ายทอดไม่มีการจดบันทึกไว้ ใช้ความสามารถในการท่องจํามากกว่า
ซึ่งสามารถวิเคราะห์ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อแนวคิดของการศึกษาดังต่อไปนี้
      1.1   ความเชื่อดั้งเดิมของคนไทย
      1.2   พุทธศาสนา
      1.3   การเมืองและสังคม
      1.4   สภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจ
      1.5   การศึกษาหรือการเล่าเรียนหนังสือ

2.สมัยกรุงสุโขทัยกับกรุงศรีอยุธยาจัดการศึกษาเหมือนหรือต่างกันอย่างไร
ตอบ   แตกต่างกัน เพราะ สมัยกรุงศรีอยุธยามีการติดต่อกับฝรั่งชาติตะวันตก และมีการจัดตั้งโรงเรียนสอนศาสนาส่วนสมัยสุโขทัยไม่มีการติดต่อฝรั่งชาติและการศูนย์กลางการเรียน คือ วัดเท่านั้น

3.อิทธิพลชาวตะวันตกที่มีผลต่อการจัดการศึกษายุคก่อนมีระบบโรงเรียนมีอะไรบ้าง
ตอบ   1.ภัยคุกคามจากประเทศมหาอำนาจ
          2.แนวคิดต่างๆของชาวตะวันตก
          3.การติดต่อกับต่างประเทศ

4.การจัดการศึกษาสมัยกรุงธนบุรีและสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้นมีความก้าวหน้าอย่างไร
ตอบ   เป็นการเริ่มต้นสิ่งใหม่ๆ เช่น พิมพ์ตำราเรียนทำให้สะดวกต่อการศึกษา ทำให้ต่อมามีการพัฒนาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆมา

5.แบบเรียนเล่มแรกของไทยชื่ออะไร เกิดขึ้นในสมัยใด ตรงกับรัชกาลใด มีที่มาอย่างไร
ตอบ   จินดามณี เกิดสมัยอยุธยา รัชกาลสมเด็จพระนารายณ์มหาราช มีที่มาจากการที่ฝั่งเศสได้ติดต่อซื้อขาย

6.การจัดการศึกษาภาคบังคับมีลักษณะเป็นอย่างไร จงอธิบาย และให้เหตุผล
ตอบ   มีความรู้ รู้จักนำไปใช้ประกอบอาชีพ ทำให้ประเทศมีการพัฒนา

7.การศึกษาที่เรียกว่ามาติกาศึกษาเป็นอย่างไร จงอธิบายและยกเหตุผล
ตอบ   1.ตำบลที่เล่าเรียนคือ ตำบลของวัด
          2.โรงเรียน คือ ที่เรียนของวัด
          3.นักเรียนและครู มี 3 ประเภท คือ ภิกษุ สามเณร
          4.เวลาเรียน คือ ตอนพระว่าง
          5.เครื่องเล่าเรียน คือ กระดานชนวน ดินสอพอ และปากกาไม้ไผ่
          6.วิชาหนังสือ คือ หนังสือเรียน

8.การศึกษาที่มุ่งคนเข้ารับราชการตรงกับสมัยใด จงอธิบายและยกเหตุผล
ตอบ   รัชการที่ 5 เพราะต้องการคนที่มีความรู้ความสามารถมาพัฒนาประเทศ

9.การปฏิรูปการศึกษาในยุคปัจจุบันท่านเห็นด้วยหรือไม่ จงอธิบายและยกเหตุผล
ตอบ   เห็นด้วย เนื่องจากปัจจุบันมีการพัฒนาไปมากในทางเทคโนโลยี จึงเป็นการดีที่จะดึงข้อดีของเทคโนโลยีมาใช้ในการปฏิรูปการศึกษาไทยในปัจจุบัน

10. ท่านเข้าใจการจัดการศึกษาสู่ยุคสมาคมอาเซียน มียุทธศาสตร์ที่สำคัญอะไรบ้าง
ตอบ   สิ่งที่สำคัญคือการสร้างความตระหนักถึงสมาคมอาเซียน ผลิตครูรุ่นใหม่ที่มีคุณภาพเพื่อที่จะสอนกับคนรุ่นใหม่

การศึกษาโลก


“ การศึกษาโลก 
การศึกษาในประชาคมอาเซียน

1.ชื่อเรื่อง
            คุยกับดำรง มาตรฐานการศึกษาไทย

ข้อสรุปประเด็นที่ได้  
    ผลการจัดอันดับของ "World Economic Forum- 2013-2014" ประเทศไทยได้อันดับที่8 ซึ่งเป็นอันดับเกือบอันดับที่สุดท้ายของอาเซียน โดยประเทศสิงคโปร์เป็นอันดับที่ 1 ของและเน้นงบประมาณการศึกษาเป็นอันดับที่1 แต่ประเทศไทยนำงบประมาณของประเทศไปทำประโยชน์อย่างอื่น ซึ่งส่งผลให้งบประมาณการศึกษาอยู่ที่อันดับ ของอาเซียนเช่นกัน

ข้อคิดที่ได้
            รัฐบาลไทยควรจัดสรรงบประมาณการศึกษาโดยคำนึงถึงการส่งเสริมให้เด็กไทยทุกคนได้เรียนหนังสืออย่างมีคุณภาพอย่างจริงจังและอย่างแท้จริง เพื่อเสริมคุณภาพแก่ประชาคมอาเซียน

2.ชื่อเรื่อง 
            การขับเคลื่อนการศึกษาไทยสู่ประชาคมอาเซียน

ข้อสรุปประเด็นที่ได้
            ดร.สุรินทร์  พิศสุวรรณ ได้กล่าวว่าอยากให้คนไทยต้องเตรียมตัวเองเพื่อก้าวเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) อย่างแท้จริง ใน 4 ด้าน1. การปรับเปลี่ยนวิธีคิด วิธีมอง พร้อมรับความเปลี่ยนแปลงและความแตกต่างที่หลากหลาย
2. ภาษา ความสามารถในการสื่อสาร โดยเฉพาะภาษาอังกฤษ ซึ่งเป็นภาษากลางของ AEC ในอนาคต
3. ความเป็นเลิศทางวิชาการเท่านั้นที่จะเป็นหลักประกันและช่วยให้อยู่รอด
4. คนไทยต้องมีความทะเยอทะยานในการที่จะให้ลูกหลานบรรลุจุดสูงสุดตามศักยภาพที่เขามีอยู่

ข้อคิดที่ได้
            ก่อนจะเปิดอาเซียนนั้น ควรจะเตรียมความพร้อมที่จะเข้าสู่อาเซียนให้มากกว่านี้ แม้มันจะระยะสั้นๆแล้ว ณ ตอนนี้ แต่มันก็ไม่สายเกินไปที่เราจะปรับตัวใหม่ให้เข้ากับประชาคมอาเซียนและรวมถึงประชาคมโลกอย่างกว้างๆ

3.ชื่อเรื่อง   
            การศึกษาไทยในประชาคมอาเซียน ตอนที่ 1

ข้อสรุปประเด็นที่ได้
            การเตรียมความพร้อมของรัฐบาลในเชิง นั้นคือ กระทรวงศึกษาธิการได้รองรับการเตรียมความพร้อมของอุดมศึกษาไทยในการก้าวเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ผ่านนโยบายที่รองรับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียนของรัฐบาลยังไม่มีความชัดเจนในการนำไปสู่การปฏิบัติ ซึ่งควรมีนโยบายในการปรับตัวและการเตรียมความพร้อมในการก้าวเข้าสู่ประชาคมอาเซียนแก่มหาวิทยาลัยในประเทศไทยมากกกว่าเดิม

ข้อคิดที่ได้
            ขั้นตอนแรกสำหรับนักศึกษาในระดับอุดมศึกษา คือต้องเตรียมความพร้อมอย่างมีคุณภาพเพื่อที่จะเข้าสู่ประชาคมอาเซียน และรัฐบาลควรคำนึงถึงความเจริญและก้าวหน้าของประเทศชาติให้มากกว่านี้

4.ชื่อเรื่อง        
            การศึกษาไทยในประชาคมอาเซียน ตอนที่ 2

ข้อสรุปประเด็นที่ได้
            ประเทศไทยจะต้องใช้ความต่อเนื่องของนโยบาย ต้องใช้ความทุ่มเท ต้องใช้สมรรถภาพของหน่วยงานและองค์กรต่างๆ  เพราะปัญหาภายในของประเทศไทยที่เปลี่ยนนโยบาย ไม่มีความต่อเนื่อง ทำให้ไม่มีเวลาเตรียมตัวเพื่อได้ประโยชน์อย่างเต็มที่ ทั้งที่ฐานอื่นดีกว่าคนอื่น

ข้อคิดที่ได้
    ประเทศไทยควรตื่นตัวแก่การปรับปรุงการศึกษาของไทยให้มีคุณภาพมากกว่านี้ มิใช่มีแต่คำว่า เรียน ให้ผ่านพ้นไปวันๆ แต่การเรียนนั้น ควรได้มาพัฒนาคุณภาพคนมากกว่าเรียนไปเพื่อจำและไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับตัวผู้เรียนแต่อย่างใดเลย

5.ชื่อเรื่อง   
    การศึกษาในประเทศสิงคโปร์

ข้อสรุปประเด็นที่ได้
            การพัฒนาการศึกษาของคนในชาติสิงคโปร์สร้างความสำคัญเป็นอย่างมากต่อระบบการศึกษาของสิงคโปร์ซึ่งคงเป็นที่ยอมรับของคนทั่วโลก  สิงคโปร์ประกาศว่าจะเป็นศูนย์กลางทางการศึกษามาตรฐานโลกโดยจะให้โอกาสเท่าเทียมกันในด้านการศึกษาเป็นพื้นฐานและจะดึงดูดคนต่างประเทศเข้ามาศึกษาในประเทศสิงคโปร์ให้มากมาย  โดยรัฐบาลได้วางยุทธศาสตร์ด้านการศึกษาเป็นอย่างดี

ข้อคิดที่ได้
            ประเทศสิงคโปร์เป็นประเทศที่มีการการวางแผนปรับปรุงการศึกษาเสมอให้ล้ำหน้าโลก เป็นจุดหมายที่ดีสำหรับประชาคมอาเซียนที่จะสามารถนำมาพัฒนาแก่ประเทศไทยได้เช่นกัน ถ้าหากประเทศไทยรู้จักวางแผนการศึกษาของนักศึกษาไทยอย่างดีพอ

6.ชื่อเรื่อง   
            การศึกษาในประเทศเวียดนาม

ข้อสรุปประเด็นที่ได้
            ระบบการศึกษาและปัญหาการศึกษาของเวียดนามมีความคล้ายคลึงกับประเทศไทย การศึกษาของเวียดนามเน้นการท่องจำให้เก่ง เพื่อไปสอบเข้ามหาวิทยาลัยแต่พอจบมาคนเหล่านี้จะทำให้เกิดปัญหาประชาชนว่างงานล้นประเทศเวียดนาม ทำให้ประเทศเวียดนามจึงเร่งการแก้ไขปัญหาการศึกษาสำหรับตอนนี้

ข้อคิดที่ได้
            สำหรับประเทศไทยก็เหมือนกับประเทศเวียดนาม ที่ผู้เรียนนั้น อ่านเพื่อจำแต่ไม่มีการนำไปใช้ประโยชน์แต่อย่างใด แต่อย่างไรก็ตาม รัฐบาลไทยก็ควรที่จะมีการแก้ไขปัญหาแก่การศึกษาไทยเหมือนกับประเทศเวียดนาม ที่กำลังประสบปัญหากับการว่างงานของชาวเวียดนาม

7. ชื่อเรื่อง   
            การศึกษาในประเทศลาว

ข้อสรุปประเด็นที่ได้
            ประเทศลาวมีปัจจัยพื้นฐานแห่งการเปลี่ยนแปลงเป็นประเทศอุตสาหกรรมและความทันสมัย แต่ต้องยึดการศึกษาเป็นหัวใจหลักสำหรับการพัฒนาคุณภาพชีวิตมนุษย์ในประเทศลาว รัฐบาลลาวได้มีการเร่งดำเนินการปฏิรูประบบการศึกษาแห่งชาติให้มีคุณภาพและมีมาตรฐานสูงขึ้น โดยมุ่งเน้น “ สร้างคนลาวให้เป็นพลเมืองดี มีการศึกษา 

ข้อคิดที่ได้
            ประเทศที่จะเจริญและมีความก้าวหน้าได้นั้น ต้องมีการศึกษาเป็นหัวใจและปัจจัยสำคัญสำหรับการพัฒนาชีวิตของคนในประเทศและความเจริญของประเทศ การศึกษาเป็นการค้ำจุนแก่มวลมนุษยชาติทั้งหลายให้มีความอยู่รอด

8.ชื่อเรื่อง    
            การศึกษาในประเทศมาเลเซีย

ข้อสรุปประเด็นที่ได้
            รัฐบาลของประเทศมาเลเซียต้องการพัฒนามาเลเซียให้เป็นศูนย์กลางของความเป็นเลิศทางด้านการศึกษาในภูมิภาคนี้โดยมีการวางแผนพัฒนายุทธศาสตร์ด้านการศึกษาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความพร้อมของการศึกษาระดับนานาชาติที่มีคุณภาพ ประกอบกับหลักสูตรที่มีความหลากหลายเป็นที่ยอมรับ และมีราคาที่เหมาะสมด้วย

ข้อคิดที่ได้
            ประเทศมาเลเซียมีความพยายามที่พัฒนาประเทศตนเองให้เป็นเลิศทางวิชาในภูมิภาคอาเซียน และประเทศไทยในอนาคตก็อาจจะตื่นตัวสำหรับเรื่องการศึกษาเช่นเดียวกัน

9.ชื่อเรื่อง   
            การศึกษาในประเทศอินโดนีเซีย

ข้อสรุปประเด็นที่ได้
            การศึกษาในประเทศอินโดนีเซียไม่มีแผนการเรื่องการแข่งขันกับนานาชาติ หรือการจะเป็นการศึกษาอินเตอร์ในภูมิภาคนี้ เพราะการเป็นชาติระดับแนวหน้าของโลกมุสลิม ไม่ให้ความสำคัญกับตะวันตก โดยเฉพาะเรื่องการสนับสนุนด้านภาษาต่างประเทศ ในทางกลับกันประเทศอินโดนีเซียมักให้น้ำหนักไปที่การศึกษาในเชิงศาสนาอิสลามและจุดเด่นอีกอย่างหนึ่งทางด้านการศึกษาของอินโดนีเซียก็คือ การเน้นการศึกษาวิชาชีพให้กับผู้เรียนระดับมัธยมศึกษา

ข้อคิดที่ได้
            ประเทศอินโดนีเซียเป็นประเทศที่มีความมุ่งมั่นในการพัฒนาภาษาอาหรับซึ่งเป็นภาษาในศานาอิสลามมากกว่าภาษาอังกฤษ ซึ่งยังคงไม่เน้นความเร่งเท่ากับประเทศไทย

10.ชื่อเรื่อง   
            การศึกษาในประเทศฟิลิปปินส์

ข้อสรุปประเด็นที่ได้
            ประเทศฟิลิปปินส์ เป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจและการศึกษาที่สำคัญในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เนื่องจาก ประเทศฟิลิปปินส์มีหลักสูตรการศึกษาอันทันสมัยเช่นเดียวกับสหรัฐอเมริกาและการศึกษาในรูปแบบอเมริกา  มีส่วนช่วยให้เกิดการตื่นตัวทางสังคมและเกิดปัญญาชนในประเทศฟิลิปปินส์และฟิลิปปินส์ยังใช้รูปแบบการศึกษาแบบอเมริกาในสถานศึกษามาจนถึงปัจจุบัน

ข้อคิดที่ได้
            ประเทศฟิลิปปินส์เป็นประเทศที่มีความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษสื่อสารที่สุดและภาษาอังกฤษก็คงเป็นภาษากลางในอาเซียน

11.ชื่อเรื่อง   
            การศึกษาในประเทศบรูไน

ข้อสรุปประเด็นที่ได้
            ประเทศบรูไนไม่มีการศึกษาภาคบังคับ แต่รัฐให้การศึกษาแก่ประชาชนเพื่อมุ่งพัฒนาให้มีความสามารถด้านสติปัญญาและมีความสุขและให้เรียนโดยไม่มีค่าใช้จ่าย บรูไนใช้ทั้งภาษามลายูและภาษาอังกฤษสอนสำหรับเด็ก โดยใช้ภาษามลายูสอนวิชาความรู้เกี่ยวกับศาสนาอิสลาม พลศึกษา ศิลปะ ส่วนภาษาอังกฤษใช้สอนวิชาหลัก วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์

ข้อคิดที่ได้
            ประเทศบรูไนเป็นประเทศที่ทำให้ผู้เรียนรู้สึกมีความอิสระต่อการเรียนและทำให้มีความสุขสำหรับการเรียน

วันพฤหัสบดีที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2558

สรุปย่อการศึกษาไทย


"สรุปย่อการศึกษาไทย"



วิวัฒนาการศึกษาไทย
ประวัติศาสตร์สมัยโบราณ
    การศึกษาสมัยนี้มีบ้านและวัดเป็นศูนย์กลาง บ้านเป็นศูนย์กลางในการขัดเกลาจิตใจสมาชิกในบ้าน วัดเป็นสถานที่ประกอบพิธีกรรมทางศาสนา โดยพระเป็นผู้อบรมสั่งสอนธรรมะ  ผู้ชายนิยมบวชเรียน ส่วนผู้หญิงนิยมเย็บปักถักร้อย

ประวัติศาสตร์สมัยสุโขทัย
     ประวัติศาสตร์สมัยสุโขทัยแบ่งออกเป็น 2 รูปแบบ คือ ผู้ชายเน้นบวชเป็นพระ ซึ่งศึกษาพระไตรปิฏกส่วนผู้หญิงเน้นการเป็นกุลสตรีที่ดี การเป็นแม่บ้านแม่บ้านเพื่อให้ตัวเองเป็นภรรยาที่ดีของสามี
สถานที่ศึกษาในสมัยนี้แบ่งเป็น 4 ประเภท คือ
1. บ้าน เป็นสถานที่เริ่มต้นของผู้ชายและผู้หญิงทุกคน โดยอบรมบ่มเพาะจากบิดามารดา
2. วัด เป็นสถานที่ที่ศึกษาสำหรับผู้ชายเป็นพระเพื่อศึกษาพระไตรปิฏก จริยธรรม คุณธรรม ส่วนผู้หญิงจะเรียนเกี่ยวกับฝึกความเป็นกุลสตรี การเย็บปักถักร้อย
3. สำนักราชบัณฑิต สำหรับผู้มียศถาบรรดาศักดิ์ ศึกษาวิชาชีพที่สูงขึ้นมา
4. วัง สำหรับเชื้อราชวงศ์ ศึกษาเกี่ยวกับยุทธหัตถี การปกครอง

ประวัติศาสตร์สมัยอยุธยา
    ประวัติศาสตร์สมัยอยุธยาแบ่งออกเป็น 2 แบบ คือ
1. แบบทหาร เรียนเกี่ยวกับการใช้ดาบ ง้าว ศัสตราวุธ ขี่ม้า ขี่ช้างและตำราพิชัยสงคราม เพื่อนำไปปกป้องการรุกรานจากต่างประเทศ
2. แบบพลเรือน พลเรือนชายจะศึกษาพระไตรปิฏก เลข ภาษาและโหราศาสตร์ โดยมีคำพูดที่ว่า “ถ้าไม่บวชเรียน จะไม่ได้รับราชการ” ส่วนผู้หญิงเรียนเพื่อออกเรือน เรียนพวกเย็บปักถักร้อย,ทำอาหาร,แกะสลัก เป็นต้น
สมัยอยุธยามีการแต่งหนังสือ "จินดามณี" และตั้งโรงเรียน " มิชชันนารี"

ประวัติศาสตร์สมัยธนบุรี
    ศูนย์กลางการศึกษาอยู่ที่วัด พ่อแม่จะพาลูกไปฝากที่วัด โดยมีพระสงฆ์สอนหนังสือ หนังสือที่ใช้ในการอบรมสั่งสอนมีหนังสือจินดามณี ด้านอาชีพ ลูกจะประกอบอาชีพจากพ่อแม่ ซึ่งถ่ายทอดแก่ลูก สตรีนิยมไม่ให้เรียนหนังสือ จะให้เรียนพวกเย็บปักถักร้อย พวกงานบ้านงานเรือนมากกว่า

ประวัติศาสตร์สมัยรัตนโกสินทร์
    พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยให้เด็กชายเข้าวัดให้เรียน อ่าน เขียน หลักคำสอนศาสนา โดยชนชั้นขุนนางจะเรียนปรัชญา เครื่องกล เครื่องมือและกลไก ในสมัยนี้ไม่นิยมให้ผู้หญิงเรียนหนังสือ แต่ก็ยังคงมีบางคนสามารถอ่านออกเขียนได้บ้าง

ประวัติศาสตร์สมัยใหม่
   เริ่มมาจากสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว นำเอาการศึกษาตะวันตกมาเกี่ยวข้องในประเทศไทย มีการเลิกทาสโดยมีความทัดเทียมในการศึกษาและมีการให้ความสำคัญของการศึกษาจนปัจจุบันมีติวเตอร์เข้ามาแทรกแซงเกี่ยวกับการศึกษาไทยมากขึ้น อาจจะส่งผลถึงปัญหาในภายภาคหน้าก็เป็นได้

ประวัติการศึกษาไทย
    การศึกษาไทยสมัยก่อน จะอยู่ที่บ้าน วัด หรือวังในสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าให้มีการสอนภาษาอังกฤษในพระราชสำนัก  ตอนยุคเกิดการล่าอาณานิคม จากตะวันตก และรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงให้มีความรู้ทางหนังสือ และทรงเปลี่ยนระบบการศึกษาเดิมเป็นแบบตะวันตกและทรงตั้งโรงเรียนหลวง  คือ "โรงเรียนพระตำหนักสวนกุหลาบ" พ.ศ. 2427 โดยจัดการศึกษาให้ทัดเทียมกัน และทรงปรับปรุงเป็นโรงเรียนนายทหารมหาดเล็กและได้ตั้งมหาวิทยาลัยแห่งของประเทศไทยคือ "จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย"
ในปัจจุบันมีการนำเทคโนโลยีมาใช้มาก คือ คอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ต เป็นการศึกษาที่ทันสมัยอย่างมากในปัจจุบัน

การพัฒนาการศึกษาไทย
"เจ้านายราชตระกูล ตั้งแต่ลูกฉันเป็นต้นลงไป
ตลอดจนถึงราษฎรที่ต่ำที่สุด จะให้ได้มีโอกาสเล่าเรียน
ได้เสมอกัน ไม่ว่าเจ้า ว่าขุนนาง ว่าไพร่
เพราะฉะนั้น จึงขอบอกได้ว่าการเล่าเรียนในบ้านเมืองเรานี้
จะเป็นข้อสำคัญที่หนึ่ง ซึ่งฉันจะอุตส่าห์จัดขึ้นให้เจริญให้จงได้"
พระราชดำรัสพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5

ปฏิรูปการศึกษาไทย 1
  การศึกษาไทยเป็นระบบที่ล้มเหลวในการสอนคนอ่าน เขียนได้อย่างแท้จริง
คุณภาพการศึกษาไทยที่พบในโลกจริง
1. เด็กไทยอ่านออกเขียนได้ในระดับที่จำกัด
2. เด็กไทยจำนวนมากไม่มีโอกาสได้เรียนต่อในระดับสูง
3. ท่องจำแต่ไม่เข้าใจ
4. บัณฑิตไม่สามารถทำงานได้ ทำงานไม่เป็น เป็นต้น
อะไรทำให้การศึกษาไทยล้มเหลว
1. รัฐไม่ใส่ใจจัดสรรงบประมาณให้น้อย
2. ครูเงินเดือนน้อย คนเก่งไม่มาเป็นครู
3. เด็กไทยเรียนน้อยเกินไป ไม่ขยัน

การปฏิรูปการศึกษาไทย 2
   เป้าหมายการศึกษาที่ดีความฉลาดทางปัญญา IQ , ความฉลาดทางอารมณ์ EQ ,ความฉลาดทางสังคม SQ คือ สำนึกในสังคมที่มีความร่วมมือ เพื่อประโยชน์ส่วนรวม ผู้ที่ศึกษาในอุดมศึกษายังขาดด้านอารมณ์และสังคม สังคมไทยถูกครอบงำด้านวัตถุนิยมของระบบเศรษฐกิจ  ทุนนิยม การศึกษากลายเป็นเครื่องมือทางเศรษฐกิจ ผู้เรียนเป็นแรงงาน โรงเรียนและมหาวิทยาลัยเป็นโรงงานผลิตแรงงาน

สถานการณ์ การศึกษาไทย 2557 (The State of Thai Education 2014)
   การวิจัยของ PISA ในการเปรียบเทียบความสามารถทางด้านการคิด การอ่านและคำนวณ ของนักเรียนอายุ 15 ปีทั่วโลก พบว่านักเรียนไทยมีการศึกษาด้อยกว่าสิงคโปร์และเวียดนาม และในวิจัย The World Economic Forum พบว่าการศึกษาไทยด้อยที่สุดในสมาชิกอาเซียน ซึ่งแรงงานที่มีประสิทธิภาพทางการศึกษาที่ต่ำนั้นทำให้เกิดปัญหาคอขวดของประเทศ ซึ่งทางสำนักงานรองรับมาตรฐานและประเมินคุณภาพทางศึกษาได้สำรวจโรงเรียน 30,010 โรงเรียนมี 65% ที่ต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐาน แปลว่ามีนักเรียนหนึ่งในสามที่จะผ่านเกณฑ์ขั้นต่ำ ทำให้รัฐมนตรีได้เห็นปัญหาจึงได้สร้างครูพันธุ์ใหม่ตั้งแต่ 2009 ถึง 2013 แต่ก็ไม่ทำให้การศึกษานั้นดีขึ้นเลย จนถึงปัจจุบันการศึกษาไทยก็ยังตามหลังประเทศอื่นอีกมาก

วิวัฒนาการการศึกษาไทย ตอนที่1

วิวัฒนาการการศึกษาไทย ตอนที่ 1


"รุย่ปรัศึ"


1. ปรัชญาสารัตถนิยม
ปรัชญาสารัตถนิยมนั้นจะเน้นในด้านการเรียนรู้ การสร้างวินัยในตนเอง ครูผู้สอนและผู้เรียน การศึกษามาจากครูมิใช่ผู้เรียน ครูเป็นผู้ให้นักเรียนเป็นผู้รับ หลักสูตรเน้นเนื้อหาวิชาและวิธีสอนให้นักเรียนมุ่งรับรู้และจดจำใช้การปาฐกถาเข้าไป

2. ปรัชญานิรันตรนิยม 
ปรัชญานิรันตรนิยม เกิดจากการสนธิคำจากคำว่า สาระ+อัตถ  ดังนั้น ปรัชญานิรันตรนิยม คือการศึกษาถึงเนื้อหาวิชาและแก่นสาระพื้นฐานส่วนสำคัญ  ปรัชญาสารัตถนิยมมาจากพื้นฐาน 2ปรัชญา ก็คือ ปรัชญาจิตนิยมและปรัชญาสัจนิยม โรงเรียนส่งเสริมให้รู้จักคุณค่าของมรดกทางวัฒนธรรม เน้นระเบียบวินัยผู้สอนเป็นศูนย์กลาง ใช้วิธีการบรรยายในการรับรู้ จดจำ ใช้การออกกำลังกายในการสร้างผู้เรียนให้มีวินัย

3.ปรัชญาพิพัฒนาการนิยม
ปรัชญาพิพัฒนาการนิยม เป็นปรัชญาที่เน้นการต่อต้านแต่การศึกษาแบบดั้งเดิมที่มักจะเน้นแต่เนื้อหาท่องจำอย่างเดียว ไม่มีความคิดเป็นของตนเอง ครูเป็นผู้จัดประสบการณ์หรือกิจกรรมที่เน้นการมีส่วนรวมอยู่บนพื้นฐานและความสนใจของผู้เรียน เพื่อให้ผู้เรียนนำไปใช้ได้อย่างถูกต้องโดยเรียนรู้จากประสบการณ์ในชีวิตจริง ใช้วิธีสอนแบบปรัชญาตามหลักวิทยาศาสตร์ครูเป็นผู้ชี้แนะจัดกิจกรรม

4.ปรัชญาปฏิรูปนิยม
ปรัชญาปฏิรูปนิยม ปฏิรูป คือ การบูรณะหรือการสร้างขึ้นใหม่ ปฏิรูปนิยมจึงมุ่งการปฏิรูปสังคม ขึ้นมาใหม่ เพราะถือว่าสังคมในปัจจุบันมีปัญหา ทั้งด้านเศรษฐกิจ การเมือง สังคม และศิลปวัฒนธรรมเป็นเหตุต้องแก้ปัญหาอยู่เรื่อย ๆ จึงต้องหาทางสร้างค่านิยมและแบบแผนของสังคมขึ้นใหม่ เน้นหาค่านิยม สร้างความเสมอภาคและความเป็นธรรมอีกทั้งต้องเตรียมคนสู่สังคมใหม่พัฒนาสังคมให้ดีขึ้น ปฏิรูปนิยมมีพื้นฐานมาจากปรัชญาปฏิบัตินิยม ผสมผสานกับปรัชญาพิพัฒนาการโรงเรียนจะต้องจัดกิจกรรมอย่างอิสระ ยืดหยุ่น ผู้เรียนได้รับประสบการณ์และทักษะตามวิถีทางประชาธิปไตย

5.ปรัชญาอัตถิภาวนิยม (existentialism)
ปรัชญาอัตถิภาวนิยม เป็นปรัชญาที่ให้ความสำคัญกับองค์ประกอบที่ทำให้มนุษย์มีความสมบูรณ์ยิ่ง เพราะเชื่อว่ามนุษย์มิใช่วัตถุแต่มีชีวิตจิตใจ มีความรู้สึก มีความต้องการ และมีความเป็นตัวของตัวเอง
ผู้คิดค้นปรัชญาอัตถิภาวนิยม คือ ซอเร็น เคียร์เคอกอร์ อัตถิภาวนิยม ปรัชญาอัตถิภาวนิยม เกิดจากคำสองคำ คือ อัต = ความเป็นอยู่ + ภาวะ = สภาพความมีอยู่ การจัดการสิ่งแวดล้อมจึงมีผลต่อการเรียนรู้ของเด็กเป็นอย่างยิ่ง เพราะเด็กจะเรียนรู้และดูดซับประสบการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นตลอดเวลาจากสิ่งแวดล้อม ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะในห้องเรียนเท่านั้น

6.พุทธปรัชญา
พุทธปรัชญา ซึ่งได้แนวคิดมาจากพระพุทธศาสนา (Buddhism) และปรัชญาการศึกษาอื่นๆ การศึกษาในพุทธปรัชญา คือ การศึกษาเพื่อให้เข้าใจความจริง เข้าใจความหมายของชีวิต ทั้งดำรงชีวิตให้สอดคล้องสัมพันธ์กับความจริงโดยใช้เหตุและผล พุทธปรัชญามีจุดมุ่งหมายจะต้องมุ่งพัฒนาโลภ โกรธ หลงให้ลดลง และพัฒนาความรู้ ความจำ นิสัยและอื่นๆในทางที่เหมาะสม เห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวม ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน